ตอนสุดท้ายของทริปทดสอบ Mazda CX-5 SkyActiv ในประเทศนิวซีแลนด์ บนระยะทาง 811 กิโลเมตร พิสูจน์ประสิทธิภาพยานยนต์ Crossover จากค่าย Zoom Zoom ที่จะทำตลาดในไทยเร็วๆ นี้...




08.00 น. เช้าวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2556 กับการทดสอบวิ่งทางไกลในวันที่ 2 ซึ่งมีระยะทางจากเมืองโรโทรัวไปยังเมืองนาเปีย 241 กิโลเมตร และมีจุดสิ้นสุดอยู่ที่เมืองเวลลิงตันปลายขอบใต้สุดของเกาะเหนืออีก 308 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 550 กิโลเมตร สำหรับการทดสอบ Mazda CX-5 ในวันที่สองซึ่งเป็นวันสุดท้าย ขบวนรถทดสอบของสื่อมวลชนไทยสตาร์ตออกจากด้านหน้าของโรงแรมโนโวเทลโรโทรัวกันตั้งแต่เช้า เนื่องจากระยะทางค่อนข้างยาว รวมถึงเส้นทางที่จะมุ่งไปยังเมืองเวลลิงตันต้องขับผ่านสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหุบเขาและโค้งที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทาง เช้าวันนี้ผมย้ายก้นมาขับ Mazda CX-5 SkyActiv-G เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้าในช่วงของการทดสอบภาคเช้า ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนรถอีกครั้งในช่วงบ่ายหลังจากแวะทานอาหารเที่ยง สภาพภูมิประเทศของเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนในโรโทรัวมีความเป็นธรรมชาติและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นป่าสน ทะเลสาบสีฟ้าหรือบ่อน้ำพุร้อน เมืองโรโทรัว เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งน้ำแร่ น้ำพุร้อน และบ่อโคลนเดือด โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมทะเลสาบโรโทรัว ซึ่งได้รับสมญานามว่า ‘เมืองแห่งซัลเฟอร์’ (Sulphur City) นอกจากนี้แล้วเมืองโรโทรัวยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำกันมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพอันงดงามจากภูเขาไฟ ทะเลสาบโรโทรัวเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะเหนือ ตั้งอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟที่ระเบิดไปแล้วเมื่อ 240,000 ปีก่อน ทะเลสาบแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของแม่น้ำลำธารหลายสายซึ่งยังคงมีความงดงามตามธรรมชาติจากการดูแลเอาใจใส่ของคนนิวซีแลนด์




อุณหภูมิของเช้าวันศุกร์ยังคงเหมือนเดิมที่ 11 องศาเซลเซียส ขับออกจากโรโทรัวเพียงแค่ 5 นาที ที่ด้านขวาปรากฏทัศนียภาพที่งดงามเกินคำบรรยาย ทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าสีน้ำตาลกับเนินเขาสลับซับซ้อน ในทะเลสาบมีฝูงหงส์ดำนับสิบนับร้อยดำผุดดำว่ายกันอย่างร่าเริง หมอกสีขาวลอยต่ำลงปกคลุมผิวน้ำทำให้เกิดมุมมองที่แปลกตาเมื่อกระทบกับแสงแดดตอนเช้า น่าเสียดายที่ขบวนรถทดสอบ Mazda CX-5 ไม่ได้จอดถ่ายรูปในบริเวณนี้ ระยะทางที่ไกลลิบกับความยากของเส้นทางทำให้ต้องรีบทำเวลาเพื่อไม่ให้ถึงเวลลิงตันมืดจนเกินไป บน Mazda CX-5 SkyActiv-G 2.0 ลิตร เบนซิน แม้กำลังจะเป็นรองรุ่นเบนซิน 2.5 ลิตร และดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร จากแรงม้าและแรงบิดที่ด้อยกว่า แต่เมื่อได้ลองทดสอบดูปรากฏว่าไม่ได้เป็นรองมากมายอะไรอย่างที่คิด การไล่กวดรถนำซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล SkyActiv-D ซึ่งมีระบบอัดอากาศเทอร์โบคู่ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรนัก แรงบิด 200 นิวตันเมตรพอเพียงที่จะไล่ตามรถนำที่มีแรงบิด 420 นิวตันเมตร เพียงแต่ใช้คันเร่งหนักมากกว่าปกติและทำให้อัตราสิ้นเปลืองของรุ่น 2.0 ลิตรเพิ่มมากขึ้นอีกนิดหน่อย สัมผัสของเครื่องยนต์ SkyActiv-G รุ่นน้องเล็กสุดท้องคล้ายกับรุ่น 2.5 ซึ่งผมควบไปเมื่อวานนี้ แต่มีแรงบิดน้อยกว่า การทรงตัวก็มีความคล้ายคลึงกันแม้น้ำหนักในรุ่น 2.0 จะน้อยกว่าถึง 200 กิโลกรัม (1,475 กิโลกรัมในรุ่น 2.0 ลิตร FWD และ 1,673 กิโลกรัมในรุ่น 2.5 ลิตร AWD) น้ำหนักที่น้อยกว่าเข้ามาชดเชยด้านอัตราเร่งแต่ก็แลกกลับมาด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่าและกินเชื้อเพลิงมากกว่าเมื่อต้องลงคันเร่งกันหนักๆ ไปตลอดทาง




ทิวทัศน์สองข้างทางทำให้ผมนึกถึงกระท่อมเก่าๆ สไตล์อังกฤษกับเตาผิงไฟที่คอยให้ความอบอุ่นและน้ำชาร้อนๆ ในตอนบ่าย ในวันที่ท้องฟ้าเป็นสีเทาแบบนี้ทำให้ตลอดเส้นทางช่วงแรกในเช้าวันที่สามค่อนข้างเงียบเหงาและเปล่าเปลี่ยว การตอบสนองของเกียร์และคันเร่งเป็นไปตามจังหวะจะโคนของผู้ควบคุม เมื่อผมต้องอัดเจ้า CX-5 SkyActiv-G เพื่อเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของมัน ช่วงล่างส่งถ่ายประสิทธิภาพของการยึดเกาะในระดับที่ดีและน่าพึงพอใจแม้จะขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้าแตกต่างจากรุ่นที่สูงกว่าซึ่งมีระบบขับสี่ล้อ AWD พวงมาลัยจะถูกหน่วงให้หนักขึ้นในย่านความเร็วสูง สัมผัสของช่วงล่างก็ยังคงอาการหนึบแน่นมากกว่าความกระด้าง ทั้งหมดทั้งปวงของ CX-5 ถูกเซตมาเพื่อถนนทุกสายในโลก การปรับเซตช่วงล่างแบบนี้อาจทำให้รุ่น 2.0 ลิตรเข้าโค้งได้ไม่คมเท่ารุ่นที่สูงกว่านี้ เนื่องจากน้ำหนักและระบบขับเคลื่อนในบางจังหวะยังคงมีอาการโคลงตัวแทรกเข้ามาบ้างเมื่อใส่กันเต็มเม็ดเต็มหน่วย บนถนนที่มีพื้นลาดยางมะตอยที่คดเคี้ยวและชื้นแฉะมันทำผลงานได้เป็นอย่างดี เมื่อความเร็วอยู่ในระดับที่พอดิบพอดีกับสภาพทางคุณจะสนุกอยู่หลังพวงมาลัยแต่ก็ต้องคอยระวังฝูงแกะให้ดี ประชากรแกะราว 40 ล้านตัวของประเทศนิวซีแลนด์นั้นมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง และอาจมีแกะบางตัวอยากฆ่าตัวตายโดยเดินตัดเข้ามาในเส้นทางของรถยนต์ หูตาที่ต้องว่องไวเป็นพิเศษกับการตอบสนองอย่างฉับพลันทันทีของคุณเมื่อต้องขับรถทดสอบในดินแดนแห่งนี้ จะช่วยให้คุณอยู่รอดปลอดภัยบนถนนที่ขึ้นชื่อลือชาว่ามีความโหดหินใช้ได้เลยทีเดียว ที่จุดแวะพักข้างทางก่อนถึงร้านอาหารในช่วงเที่ยง ขบวนรถทดสอบ CX-5 จอดพักยืดแข้งยืดขาหลังจากหวดกันมาเต็มๆ ในตอนเช้า ผมลงจากรถไปยืนถ่ายรูปป้ายบอกระยะทางของปั๊มน้ำมันข้างหน้าอีก 195 กิโลเมตร เมื่อลงไปได้ไม่นานนักก็ต้องกลับเข้ามาในรถ ลมหุบเขาที่ทั้งเย็นจัดและมีกำลังแรงพัดปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ อุณหภูมิในจอ MID มีตัวเลข 7 องศา มันทำให้ผมรู้สึกเย็นยะเยือกราวกับไก่ในช่องแช่แข็งจนต้องกลับมาห่อตัวเองอยู่ในรถด้วยเสื้อกันหนาวที่มีความหนาราวกับผ้านวม




วิ่งผ่านหุบเขาที่ล้านเลี่ยนเตียนโล่งมีแต่หญ้าเตี้ยๆ และฝูงแกะนับพันๆ ตัวเรียงรายตามไหล่เขามาได้สักครู่ ก็มาถึงจุดที่สวยที่สุด มันคือหุบเขา Hawke's Bay Manawatu - Wanganui ที่มีความแตกต่างด้านพันธุ์พืช เมื่อเปรียบเทียบกับทุ่งหญ้าและเนินเขารอบๆ สถานที่แห่งนี้ หุบเขาที่สูงชันนี้เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดยักษ์พวกสนภูเขาที่แต่ละต้นมีอายุเกิน 500 ปี รวมถึงเฟิร์นที่ใหญ่ยักษ์ราวกับอยู่ในยุคจูราสสิค ความงดงามและดิบทึบของป่าสองข้างทางเมื่อขับขึ้นไปใกล้ๆ กับยอดของหุบเขาแห่งนี้ก็ต้องพบกับลมพายุที่พัดกระหน่ำทั้งกระแสลมและฝนจนทำให้รถคันนำต้องลดความเร็วลงมาเพื่อความปลอดภัย ยาง Toyo tire รุ่น Proxes R36 ไซค์ 225/55/R19 ยังคงทำงานได้เป็นอย่างดีแม้อุณหภูมิจะเย็นจัดแต่อาการยึดเกาะก็ยังเป็นปกติทำให้ควบคุมตัวรถในสถานการณ์ดังกล่าวมีความง่ายขึ้น ขบวนรถทดสอบ Mazda CX-5 ในกลุ่มแรกซึ่งมีทั้งรุ่นดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตรและเบนซิน 2.5 ลิตร แล่นตามกันไปเรื่อยๆ บนหุบที่ตัดผ่านแนวต้นไม้ขนาดยักษ์โดยมีเจ้าน้องเล็กรุ่น 2.0 อัดสวนคันเร่งจี้ติดตูดรถนำแบบไม่คลาดสายตาเนื่องจาก GPS เจ้ากรรมในรถของผมเกิดไม่ทำงานขึ้นมาซะดื้อๆ ตั้งแต่ออกจากหน้าโรงแรมโนโวเทลโรโทรัว ตลอดทางบนถนน Hawke's Bay Manawatu - Wanganui เสียงเครื่องยนต์ SkyActiv ดังกระหึ่มไปทั่วผืนป่าในช่วงก่อนเที่ยงของวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม ละอองน้ำจากรถคันนำเริ่มทำให้รถที่ผมขับสกปรกเลอะเทอะมากขึ้นทุกที แต่มันก็ยังคงดูดีอยู่มากบน CX-5 ในความเป็นยนตรกรรม Crossover ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ลุยก็ได้วิ่งเรียบๆ ก็ดีที่ต้องเลอะโคลนข้างตัวถังซะบ้าง แทนที่จะสะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนกับพวกรถที่ใช้วิ่งในเมืองทั่วไป




11.45 น. รถทดสอบ CX-5 ทุกคันก็วิ่งลัดเลาะหุบเขามาถึงยังไร่องุ่น Black Barn Vineyard สถานที่แวะทานอาหารกลางวันก่อนจะไปต่ออีก 233 กิโลเมตรเพื่อถึงยังจุดพักช่วงสุดท้ายก่อนเข้าสู่เมืองเวลลิงตัน ในที่แห่งนี้ วิศวกรของ Mazda ทั้งนากามูระและทานากะ จะอยู่กับขบวนเป็นที่สุดท้าย ก่อนจะขอตัวล่วงหน้าไปยังเมืองเวลลิงตันเพื่อให้ทันเที่ยวบินที่จะกลับไปเมืองโอซาก้าในช่วงก่อนค่ำ เสร็จจากอาหารมื้อเที่ยงและการร่ำลาสองวิศวกรที่เป็นกันเองของ Mazda Motor 13.15 น. ขบวนรถทดสอบทั้งหมดรวมรถเจ้าหน้าที่พีอาร์ของ Mazda ก็ทยอยออกเดินทางมุ่งลงใต้ต่อไป เป็นไปตามระยะทางกับเวลาที่พี่บอย วรพล สิิงห์เขียวพงษ์ บก. ของ Thai Driver และนักเขียนของนิตยสารรถ Best Car Thai Edition แจ้งมาจากการบันทึกของแอพฯ GPS ในเครื่อง iPhone 4 ซึ่งแจ้งทั้งระยะทาง พิกัดของตำแหน่งที่วิ่งผ่านกับคาบเวลาด้วยความแม่นยำชนิดไม่มีหลุดขอบ ในช่วงบ่ายผมเปลี่ยนรถทดสอบมาเป็นเจ้าเสือดาว Mazda CX-5 Diesel 2.2 ลิตรเทอร์โบคู่ พร้อมด้วยนวัตกรรม SkyActiv-D ที่มอบแรงบิด 420 นิวตันเมตรให้ได้สัมผัสไปตลอดทาง มันคือหนึ่งในรุ่นสูงสุดที่ Mazda มุ่งหมายจะเอาเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ดีเซลอัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่และเทคโนโลยีของตัวถัง ช่วงล่าง ระบบความปลอดภัยในระดับแนวหน้าของวงการเมื่อเทียบกันกับราคาค่าตัวและสมรรถนะของรถคู่แข่ง




Diesel 2.2 Turbo เต็มไปด้วยกำลังแรงบิดในรูปของแรงดึงที่พาตัวรถพุ่งทะยานไปตามแรงกดของฝ่าเท้า ส่งถ่ายความมันส์ในอารมณ์มากกว่า CX-5 ทุกรุ่นที่ผมได้สัมผัส อาการรอรอบหรือ Turbo Lag ไม่ปรากฏให้เห็นเนื่องจากใช้เทอร์โบสองตัวโดยออกแบบให้เทอร์โบตัวที่เล็กกว่าเข้ามารับผิดชอบสร้างอัตราบูสในรอบต่ำ ส่วนอีกตัวเตรียมพร้อมรอทำงานรับช่วงต่อในรอบเครื่องยนต์ปานกลางถึงสูงสุด อาการรีเลย์ของคันเร่งไฟฟ้ามีให้สัมผัสน้อยมาก นั่นยิ่งช่วยให้คุณสามารถเร่งแซงได้อย่างทันท่วงที และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องควบกันที่ย่านความเร็วสูงบนไฮเวย์ข้ามเมืองแบบนี้ กำลังของเครื่องยนต์ดีเซลในรูปของแรงบิด 420 นิวตันเมตร แม้จะมีน้ำหนักตัวมากที่สุดบนตัวเลข 1,687 กิโลกรัม แต่ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับความคล่องแคล่วว่องไวแต่อย่างใดทั้งสิ้น กำลังที่มีมาให้อย่างเหลือเฟือในช่วงรอบต่ำตั้งแต่พุ่งออกตัว ต่อเนื่องกันไปจนถึงรอบสูงสุดที่ 4,500 รอบต่อนาที การเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้า หากจะให้ทันใจต้องลดตำแหน่งเกียร์ลงมาที่เกียร์ 4 หรือเหยียบคันเร่งให้สุดเพื่อคิกดาวน์โดยมอบงานให้ ECU ของระบบส่งกำลังได้ทำงานด้วยตัวของมันเอง น้ำหนักที่มากกว่ารุ่นเบนซินทำให้เกิดความเสถียรของตัวรถ เมื่อรวบกับพลังงานที่ได้รับจากเครื่องยนต์ SkyActiv-D ทำให้เจ้า CX-5 รุ่นนี้มีความน่าใช้งานไม่น้อย แรงลากจูงขณะขับขึ้นสู่เนินเขาที่ค่อนข้างชันกลายเป็นเรื่อง่ายๆ ในช่วงบ่าย เจ้าเสือดาว CX-5 รุ่นดีเซลคือรถที่ขับมันส์ที่สุดในกลุ่มรถทดสอบของทริปนี้ เสียงและความสั่นสะเทือนแบบดีเซลยุคก่อนประวัติศาสตร์ถูกขจัดออกไปจนแทบจะไม่เหลือ ทำให้ความรู้สึกยามขับขี่ควบคุมมีความเงียบไม่แตกต่างจากรุ่นเบนซินเท่าใดนัก ผมหวดมันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งก็ออกนำโด่งจนต้องยกคันเร่งรอเพื่อนๆ ที่ขับตามกันมา ก่อนที่ทั้งขบวนจะวิ่งเข้าไปในเมืองเล็กๆ เพื่อแวะพักยังร้านกาแฟ White Swan ซึ่งมีของว่างพวกมันทอดและปลาชุบแป้งทอดรถชาติระดับ 5 ดาว





ออกจากร้านกาแฟ White Swan ที่มีของว่างเลิศรสอร่อยปากจนอยากหิ้วกลับมาทานบนรถ ยังเหลือระยะทางก่อนที่จะเข้าสู่เมืองท่าเวลลิงตันอีก 75 กิโลเมตร เป็นเส้นทางทดสอบช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นสุดทริป Mazda CX-5 ในนิวซีแลนด์ เมื่อผมขับออกมาจากจุดพักได้ไม่นาน ทางข้างหน้าเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นภูเขาสีเขียวทึมๆ ที่มียอดปกคลุมไปด้วยเมฆฝนดำทะมึน เรียงรายสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา โดยมีทางลาดยางสองเลนสวนกันพาดผ่านคดเคี้ยวราวกับงูตัวเล็กๆ ที่เลี้อยผ่านหุบเขา นึกถึงตอนทดสอบ Mazda BT-50 PRO ในพม่าซึ่งช่วงสุดท้ายก่อนวิ่งเข้าสู่ด่านแม่สอดต้องผ่านเทือกเขาถนนธงชัยที่โหดดิบเหลือคณานับ ซึ่งพีอาร์ของค่ายนี้มักจัดเต็มชนิดลืมกันไม่ลงก่อนปิดทริปทดสอบเกือบทุกครั้งในต่างประเทศ แม้สภาพทางของช่วงสุดท้ายก่อนเข้าสู่เมืองเวลลิงตันจะดีกว่ามากเนื่องจากเป็นทางลาดยางเรียบๆ แต่ความแคบของโค้งแปลกๆ หลอนๆ และแนวแบร์ริเออร์กั้นขอบทางกับขอบเหวถึงสามชั้นกันรถร่วงลงไปด้านล่าง แสดงให้เห็นว่าหากคุณหล่นลงไปข้างล่างนั้น หนทางเดียวที่จะนำคุณกลับขึ้นมาได้คือการใส่ปี๊บกลับขึ้นมาสถานเดียวเท่านั้น ความชันของเส้นทางและความอันตรายบวกกับความที่ไม่คุ้นชินทำให้ผมยกคันเร่งปล่อยให้รถของคุณแจ็คจากมติชน และพี่มั่วจากฐานเศรษฐกิจขึ้นนำแล้วขับไล่ตามท้ายแบบห่างๆโดยทิ้งระยะเผื่อเหลือเผื่อขาดหากเกิดอะไรขึ้นมา ซึ่งอาจต้องใช้เบรกกันแบบเต็มกำลัง ขึ้นมาได้ถึงกลางหุบเขา ฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ตอนอยู่ข้างล่างก็กระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง มันยิ่งทำให้ความอันตรายเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว คุณแจ็คกับพี่มั่วในรถคันนำลดความเร็วลงจนแทบจะคลานในบางช่วงบางตอนที่โดนสายฝนกระหน่ำหนักจนมองไม่เห็นทาง นี่คือการผจญภัยขั้นสุดยอดในนิวซีแลนด์ ทางโหดหินที่ต้องฟันฝ่าไปให้ถึงจุดหมายแบบนี้ได้ทดสอบทั้งรถและคนขับไปพร้อมๆ กัน ผมหันกลับไปดูรถทดสอบที่ตามมาห่างๆ เป็นกลุ่มใหญ่ ปรากฏว่าทั้งหมดยังคงอยู่ที่ด้านกลางๆ ของอีกหุบเขาโดยสังเกตเห็นได้จากไฟหน้ารถที่วิ่งอยู่ในอีกเทือกเขาด้านล่างไล่เรียงตามกันมายังกับลูกปัดเรืองแสงสีขาว





18.15 น. รถทดสอบ Mazda CX-5 ของสื่อมวลชนไทย ทยอยกันวิ่งเข้าสู่โรงแรม Museum Hotel ในเมืองเวลลิงตันกันแบบสะบักสะบอมจากระยะทางในวันที่สองซึ่งยาวไกลมากถึง 550 กิโลเมตร หากเป็นทางราบแบบปกติอาจใช้เวลากันไม่มากขนาดนี้ แต่นี่เป็นทางขึ้นเขาลงเนินตลอดทั้ง 550 กิโลเมตร บวกสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจเอาซะเลย ในช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นสุดการทดสอบระยะไกล ทีมทดสอบสามารถใช้ความเร็วได้ไม่มากนักตามกฎหมายของประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งเข้มงวดมากๆ ตลอดเส้นทางทั้ง 811 กิโลเมตรในช่วงระยะเวลาสองวันเต็มผมไม่พบเจออุบัติเหตุบนถนนเลยแม้แต่รายเดียว กฎหมายจราจร สภาพทาง ป้ายบอกความเร็วก่อนทางโค้งกับป้ายกำหนดความเร็วก่อนเข้าเมือง และการเคารพต่อกติกามารยาททำให้ถนนของดินแดนสุดขอบโลกซีกใต้แห่งนี้มีความปลอดภัยสูงมาก สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว เจ้า CX-5 ที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดในไทยนับต่อจากนี้อีกไม่นานเกินรอมีความน่าใช้งานและมีสมรรถนะที่แตกต่างกันออกไปตามระดับของราคาค่าตัวและเครื่องยนต์ที่ใช้ประจำการ มันสอบผ่านการทดสอบทุกคันโดยไร้ปัญหาขณะขับขี่ งานวิศวกรรมทั้งเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและแชสซีส์แบบใหม่ในเทคโนโลยี SkyActiv กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมของรถยนต์จากแดนปลาดิบให้เทียบเคียงค่ายรถจากยุโรป รุ่นเบนซิน 2.0 ลิตรขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าคือรถรุ่นมาตรฐานที่มีความประหยัดเงินที่สุดของ CX-5 เครื่องยนต์ SkyActiv-G 2.0 ลิตรมีประสิทธิภาพดี เหมาะสมกับระดับของราคาค่าตัวซึ่งคาดการณ์ว่ามันน่าจะมีราคาขายอยู่ที่ 1,150,000 - 1,200,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่จิมมี่คาดล่วงหน้าเอาไว้เนื่องจากทาง Mazda ยังคงไม่เปิดเผยถึงค่าตัวของรถ CX-5 ทุกรุ่น ส่วนรุ่นเบนซิน 2.5 ลิตร จิมมี่คาดว่าน่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,400,000 - 1,450,000 บาท สำหรับรุ่นสูงสุดซึ่งวางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ SkyActiv-D (AWD) ราคาคงจะอยู่ราวๆ 1,650,000 - 1,700,000 บาท ไม่แพงอย่างที่คิดหากเปิดราคามาในลักษณะนี้ และทำให้ตลาดรถยนต์แบบ Crossover ในประเทศไทยมีตัวเลือกประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นมาอีกรุ่นอย่างแน่นอน อย่าลืมว่ามันผ่านมาตรฐานค่าการปล่อยมลพิษในระดับ EURO-6 สูงที่สุดเหนือรถยนต์ญี่ปุ่นทุกยี่ห้อที่มีขายในประเทศไทย
ราคา Mazda CX-5 ตามการประเมินของคุณธนเทพ ธเนศนิรัตศัย (จิมมี่) จากเว็บ headlightmag.com
MAZDA CX-5 2.0 Base 2WD ราคาประมาณ 1,150,000 - 1,200,000 บาท
MAZDA CX-5 2.0 High 2WD ราคาประมาณ 1,270,000 - 1,370,000 บาท
MAZDA CX-5 2.5 High 2WD ราคาประมาณ 1,400,000 - 1,450,000 บาท
MAZDA CX-5 2.2 Diesel Turbo 4WD ราคาประมาณ 1,650,000 - 1,700,000 บาท




ที่ความสูง 12,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล 16.20 น. เย็นวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2556 บนเครื่อง Airbus A320 ของสายการบินนิวซีแลนด์ในเส้นทางบินกลับขึ้นมายังเมืองอ็อคแลนด์ เวลาที่เหลืออยู่อีกไม่มากนักและมันกำลังจะหมดลงในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเดินทางกลับไทย สำหรับการท่องไปในดินแดนที่สวยงามแห่งนี้ ตลอดระยะเวลาสองวันเต็มๆ ของการทดสอบรถยนต์ Mazda CX-5 ทั้งสามเครื่องยนต์ที่ Mazda เปิดโอกาสให้ขับกันอย่างเต็มเหนี่ยวไม่มีหวงของ หรือคอยห้ามโน่นนี่นั่นแต่อย่างใดทั้งสิ้น แถมยังเปิดอกให้วิจารณ์ตัวรถกันได้อย่างเต็มที่เต็มเหนี่ยวแบบก้มหัวยอมรับคำติคำด่าทั้งหมด เพื่อการปรับปรุงให้ดีขึ้นและให้มันมีประสิทธิภาพถูกอกถูกใจคนไทยก่อนที่จะวางตลาด ความประทับใจส่วนตัวของผมเมื่อพบเห็นความเป็นกันเองของวิศวกรญี่ปุ่นทั้งสองท่าน ฮิเดกิ ทานากะ และ ฮิรูกิ นาการมูระ ซึ่งร่วมติดตามรับฟังรายงานของสื่อมวลชนสายรถยนต์จากประเทศไทยตั้งแต่วันแรกยันวันสุดท้ายของการทดสอบชนิดเกาะติดไปกับทีมแบบไปไหนไปด้วย ความประทับใจในวิวทิวทัศน์สองข้างทางที่ยาวถึง 811 กิโลเมตร จากอ็อคแลนด์ไปเวลลิงตันนั้น มีความงดงามเกินจะบรรยายเป็นตัวอักษรหากคุณไม่ได้ไปเห็นด้วยตาของตัวเอง ผู้คนรอบข้างเต็มไปด้วยอัธยาศัยใจคอที่ดีและมีไมตรีจิตร อาหารการกินที่ค่อนข้างถูกปาก มันคุ้มค่าต่อการต้องเดินทางมาไกลถึง 10,200 กิโลเมตรจากกรุงเทพมหานครมายังอ็อคแลนด์และเวลลิงตัน มหานครของประเทศนิวซีแลนด์ แม้ค่าครองชีพของที่นี่จะแพงหูฉี่ ขอขอบคุณ คุณสุรีย์ทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธุ์ เจ้าหน้าที่วิศวกร คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท Mazda Sales (Thailand) Mr. Hideaki Tanaka Mazda CX-5 Program Manager / Mr. Hiruki Nakamura Mazda CX-5 Driving Dynamic Engineer Mazda Motor Corporation Hiroshima Japan บริษัท Nikon Thailand ผู้ให้การสนับสนุนอุปกรณ์บันทึกภาพตลอดการเดินทางทดสอบรถยนต์ทุกทริปทั่วโลก.
CAMERA NIKON D7100 +17-55 f2.8G DX